สิว

ผิวมัน สาเหตุและการรักษา

ผิวมัน สาเหตุและการรักษา

  ผิวมันอีกแล้ว กระดาษซับมันหมดเป็นกล่องก็ยังไม่หายมันสักที ปัญหาเหล่านี้หลายคนย่อมเคยเจอมาแล้วอย่างน้อยก็ช่วงวัยรุ่นหรือช่วงเรียนมหาลัย แต่ลองสังเกตกันไหมคะว่าความมันนั้นไม่ได้มันเท่ากันตลอดทุกวันหรือทุกช่วงเวลา บางวันหน้าก็มันมากแต่บางวันอาจจะตรงกันข้ามเลยซึ่งเกิดจากหลายสาเหตุและแต่ละสาเหตุก็มีวิธีการรักษาที่ไม่เหมือนกัน เรามาดูกันค่ะว่าจะรับมือกับปัญหาผิวมันอย่างไรดี

รักษาผิวมันด้วยอย่างมีประสิทธิภาพ
ด้วยเลเซอร์ลดหน้ามัน

หน้ามันเกิดจากสาเหตุอะไร?

  • น้ำมันหรือซีบัม(sebum) ถูกสร้างมาจากต่อมไขมัน
  • ต่อมไขมันจะอยู่รวมกับรูขุมขน โดยต่อมไขมันจะมีท่อมาเชื่อมต่อกับรูขุมขน ซีบัมจะขับออกสู่ผิวผ่านรูเปิดของรูขุมขน
  • ต่อมไขมันจะทำงาน
    • ตั้งแต่เป็นทารก ต่อมไขมันจะทำงานน้อย ผลิตน้ำมันออกมาไม่เยอะ ทำให้ถ้าเราสังเกตจะพบว่าในเด็ก ผิวจะไม่มัน ดูเนียน รูขุมขนดูแคบ ผิวละเอียด
    • เมื่อเข้าสู่วัยรุ่น ต่อมไขมันจะทำงานมากขึ้น 500% ซึ่งเกิดจากการหลั่งฮอร์โมนเพศ ส่งผลให้รูขุมขนดูกว้าง หน้ามัน เป็นสิว
    • เมื่ออายุมากขึ้นผิวจะมันลดลง ต่อมไขมันฝ่อและสร้างน้ำมัน

ประโยชน์ของซีบัมคืออะไร?

  • หน้าที่ของซีบัมคือสารให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของผิวหนัง ช่วยเคลือบผิว ไม่ให้ผิวเสียน้ำไปง่าย
    • ถ้าผลิตน้ำมันหรือซีบัมได้น้อย ผิวจะแห้ง ผิวสูญเสียน้ำง่าย เกิดริ้วรอยง่าย ผิวระคายเคืองง่าย
    • ถ้าผลิตน้ำมันหรือซีบัมได้มาก ผิวจะมัน เกิดสิวง่าย รูขุมขนจะดูกว้าง ผิวดูหยาบ แต่เกิดริ้วรอยยากกว่าคนผิวแห้ง

รู้ได้อย่างไรว่าเรามีผิวหน้ามัน?

  1. มีปัญหารูขุมขนกว้าง
  2. ผิวมันวาว
  3. มีปัญหาสิวอักเสบ สิวอุดตันง่าย
  4. เครื่องสำอางติดไม่ทน หลุดออกง่าย
  5. หน้ามันอย่างรวดเร็วหลังจากล้างหน้า
ผิวมัน รักษา เลเซอร์
เลเซอร์ลดผิวมัน

ปัจจัยที่ทำให้ผิวมันคืออะไร?

  1. ฮอร์โมนเพศชายสูง โดยปกติเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนเพศชายออก โดยฮอร์โมนเพศชายจะหลั่งทั้งในผู้ชายและผู้หญิง
    • ในผู้ชาย ทำให้มีลักษณะสมชาย คือมีหนวด มีขนตามตัว ผิวมัน เสียงเปลี่ยน ช่วยพัฒนากล้ามเนื้อและกระดูก
    • ในผู้หญิง ช่วยในการพัฒนากล้ามเนื้อและกระดูก ผิวชุ่มชื้นไม่มันมาก แต่ถ้ามีฮอร์โมนเพศชายมากเกินไปอาจส่งผลให้มีหนวด มีขนตามตัวเยอะ ผิวมันมาก เป็นสิวง่าย หัวล้าน
    • โรคหรือภาวะใดก็ตามที่มีการเพิ่มของฮอร์โมนแอนโดรเจนเช่นถุงน้ำรังไข่ Polycystic ovarian syndrome (PCOS)
  2. ความเครียด จะกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล ที่ส่งผลให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้น หน้ามันมากขึ้น สิวขึ้นง่าย ความเครียดในที่นี้หมอหมายถึงความเครียดทั้งทางร่างกายเช่นการพักผ่อนไม่เพียงพอ การเจ็บป่วย และความเครียดด้านจิตใจเช่นความวิตกกังวล ความโกรธ
  3. อายุ อายุมากขึ้นผิวจะมันน้อยลงเนื่องจากต่อมไขมันทำงานน้อยลงและฝ่อไป
  4. อากาศร้อนชื้น ยิ่งร้อนยิ่งชื้น ผิวจะยิ่งมันง่าย
    • ประเทศภูมิอากาศร้อนชื้นแถบเส้นศูนย์สูตร
    • การใส่แมสทำให้อากาศบริเวณที่เราใส่แมสทับ ร้อนและชื้นจากลมหายใจ ทำให้ผิวบริเวณที่ใส่แมส มันกว่าปกติและเกิดสิวง่าย
  5. กรรมพันธุ์ ถ้าพ่อแม่มีผิวมัน ลูกจะเพิ่มโอกาสผิวมัน

หน้ามันทำอย่างไรดี?

  • ล้างหน้าด้วยน้ำอุณหภูมิห้อง 2 ครั้งต่อวัน เช้าและเย็น
  • ใช้กระดาษซับมันเพื่อซับความมันระหว่างวัน
  • เลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับสภาพผิว
    • ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว ให้ใช้สบู่หรือโฟมล้างหน้าที่อ่อนโยน pH เป็นกรดอ่อนๆ ไม่รบกวนสมดุลผิว
    • ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ควรทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสม่ำเสมอ เพื่อให้ผิวแข็งแรง ไม่ระคายเคืองง่ายแต่เลือกผลิตภัณฑ์ที่เนื้อบางเบาไม่อุดตันง่าย เช่น พวกเซรั่ม เจลว่านหาง
    • ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวและคุมความมัน เช่นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA, BHA, Niacinamide หรือวิตามิน B3
    • ผลิตภัณฑ์กันแดด ที่เนื้อบางเบา oil-free หรือ water based
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลสูง, น้ำมันที่ผ่านกรรมวิธีหรือการแปรรูป ไขมันทรานส์และไขมันพืชที่สัดส่วน omega6:omega3 สูง, ผลิตภัณฑ์จากนมวัว (อ่านต่อใน 3 กลุ่มอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงหากไม่อยากเป็นสิว)
  • พักผ่อนให้เพียงพอ
  • กรณีมีปัญหาเรื่องประจำเดือนผิดปกติร่วมด้วย ควรหาสูตินารีแพทย์เพื่อหาสาเหตุ
  • หากลองวิธีการดังกล่าวแล้วไม่เป็นผล อาจใช้เลเซอร์ที่จำเพาะต่อต่อมไขมันรักษาจะสามารถทำให้ผิวมันลดลงได้

รักษาผิวมันด้วยอย่างมีประสิทธิภาพ
ด้วยเลเซอร์ลดหน้ามัน

ผิวหน้ามันทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหรือครีมกันแดดได้หรือไม่?

ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและครีมกันแดดเป็น The must ต้องทาเสมอถึงแม้มีผิวมันหรือเป็นสิวง่าย เพราะความชุ่มชื้นกับความมันเป็นคนละเรื่องกัน และแสงยูวีทำให้เกิดปัญหาผิวตามมามากมาย เพียงแต่ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่เนื้อบางเบา oil free เนื้อเจล เนื้อเซรั่ม หรือเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีน้ำมันชนิดกระตุ้นสิว

ผิวมัน สาเหตุ รักษา

ผิวมัน สาเหตุและการรักษา Read More »

อาหารเสริม 5 ประเภทที่อาจช่วยเรื่องลดสิวได้

อาหารเสริม 5 ประเภทที่อาจช่วยเรื่องลดสิวได้

   เป็นสิวแล้วกินอะไรดีเพื่อให้สิวหายเร็วขึ้น ในบทความนี้จะแนะนำอาหารเสริมดีๆ ที่นอกจากจะช่วยให้สิวที่มีอยู่เดิมหายเร็วขึ้นแล้วยังจะช่วยป้องกันให้สิวเกิดขึ้นน้อยลงอีกด้วย

  อย่างไรก็ตาม อาหารเสริมที่จะพูดถึงต่อไปนี้ไม่ได้มีความสามารถในการรักษาสิวได้ดีเทียบเท่ายาหรือทรีตเมนต์ที่ใช้รักษาสิวโดยตรง ดังนั้นในคนไข้ที่เป็นสิวเยอะ รุนแรง ควรที่จะต้องปรึกษาหมอสิวก่อนทุกครั้งเพื่อหาสาเหตุของสิวและรักษาสิวให้ถูกวิธีก่อนที่จะเกิดหลุมสิวใหญ่ตามมา ซึ่งทำให้ต้องมาเสียเงินจำนวนมากในการรักษาหลุมสิว

  นอกจากจะมีอาหารเสริมที่ช่วยรักษาสิวแล้วทางมิ่งขวัญคลินิกก็มีบทความอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงสำหรับคนเป็นสิวอีกด้วย สามารถกดเข้าไปอ่านได้เลยค่ะ >>> อาหาร 3 ประเภทที่ควรหลีกเลี่ยงหากไม่ต้องการเป็นสิว

ต้องการรักษาสิวครบวงจร
เรียนรู้คอร์สรักษาสิว Acne clear Max

โปรไบโอติก สิว

โปรไบโอติก (Probiotic)

  ทั้งนี้นักวิทยาศาสตร์ได้พบความเชื่อมโยงระหว่างลำไส้และผิวพรรณ (Gut-Skin connection) โดยพบว่าโรคผิวหนังหลายโรค เช่น สิว ผิวแพ้ง่าย สิวหน้าแดง (Rosacea) สะเก็ดเงิน มีความสัมพันธ์กับการเสียสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ซึ่งเกิดขึ้นมาจากการลดลงของจุลินทรีย์ดี สิ่งที่ตามมาคือจุลินทรีย์หรือเชื้อก่อโรคจะเพิ่มจำนวนมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการอักเสบของผนังลำไส้และเกิดรอยแยก สารพิษในลำไส้จะสามารถผ่านรอยแยกนี้เข้าสู่กระแสเลือดได้ เป็นสาเหตุให้เกิดการอักเสบในร่างกาย ดังนั้นการทานโปรไบโอติกจะไปยับยั้งต้นเหตุดังกล่าวและช่วยลดการอักเสบลง

  ที่คลินิกเราเองได้สังเกตเห็นว่าในคนไข้บางคนที่เป็นสิวอักเสบโดยไม่ทราบสาเหตุ เมื่อได้รับประทานโปรไบโอติกก็พบว่าสิวอักเสบเกิดขึ้นน้อยลงและสามารถป้องกันสิวอักเสบในคนไข้บางคนได้สำเร็จอีกด้วย

ไฟเบอร์ สิว

ไฟเบอร์ (Fiber)

  มีชิ้นงานวิจัยที่พบว่าการรับประทานไฟเบอร์ 13 กรัม/มื้อจะช่วยทำให้สิวดีขึ้น ซึ่งที่จริงแล้วไฟเบอร์นั้นมาจากผักและผลไม้เป็นหลัก เราก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเราควรรับประทานผักและผลไม้ในแต่ละวันให้มาก (ขนาด สสส. ยังรณรงค์ให้เรากินผักและผลไม้ 4 ขีดต่อวันเลย) ไฟเบอร์นอกจากจะเป็นอาหารให้โปรไบโอติก (อาหารเสริมในข้อแรก) ทำให้เชื้อทำงานได้ดีขึ้นแล้วตัวไฟเบอร์เองยังช่วยทำให้ระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้น แก้ท้องผูก ชะลอวัย และยังป้องกันมะเร็งได้อีกด้วย

โอเมก้า 3 สิว

ไขมัน Omega-3

  ไขมัน Omega-3 มักพบในอาหารจากสัตว์ทะเลน้ำลึก เช่น ปลาแซลมอล ปลากระพง หรือกลุ่มอาหารจำพวกไข่ นมถั่วเหลือง ถั่วต่างๆ ซึ่งโดยหลักการ Omega-3 เป็นไขมันที่ช่วยลดการอักเสบในร่างกายจึงส่งผลทางอ้อมช่วยลดการอักเสบของสิวอีกทีนึง ได้มีการศึกษาในกลุ่มทดลองที่ให้รับประทานอาหารที่มีไขมัน Omega-3 มากๆ พบว่าสามารถลดสิวหัวดำ สิวอักเสบ สิวหัวช้างได้

ต้องการรักษาสิวครบวงจร
เรียนรู้คอร์สรักษาสิว Acne clear Max

สังกะสี สิว

สังกะสี (Zinc)

  เป็นกลุ่มแร่ธาตุที่ช่วยเรื่องผิวหนังและเส้นผม สังกะสีเป็นสารที่ลดกระบวนการอักเสบและสามารถยับยั้งแบคทีเรีย Propionibacterium acnes ซึ่งเป็นเชื้อโรคก่อสิว จึงส่งผลให้เป็นสิวลดลงได้ อาหารที่มีสังกะสีมาก ได้แก่ เนื้อสัตว์ หอย เมล็ดธัญพืช ไข่ สำหรับคนที่อยากใช้อาหารเสริมจะแสวงหา chelated zinc มารับประทานก็ไม่ผิดอะไรเช่นกัน

เกร็ดความรู้: สังกะสีนอกจากจะช่วยเรื่องสิวแล้ว ยังสามารถช่วยเรื่องเส้นผมโดยเฉพาะในคนไข้ที่มีอาการผมร่วงจากความเครียด ภาวะผมบางจากกรรมพันธุ์ได้อีกด้วย

วิตามินเอ สิว

วิตามินเอ (Vitamin A)

  ปกติวิตามินเอเป็นวิตามินที่ใช้ในการรักษาสิวอยู่แล้ว ด้วยสรรพคุณที่ช่วยขจัดเซลล์ผิวจึงทำให้สิวอุดตันลดลง ทำให้ผิวเนียนเรียบและมีฤทธิ์ป้องกันสิวได้ดีอีกด้วย แต่วิตามินเอก็ถือเป็นดาบสองคมเพราะตัววิตามินเอเองทำให้ผิวหนังแห้ง แตก ลอกได้ง่ายจึงควรรับประทานอาหารที่มีวิตามินเอในปริมาณที่เหมาะสม นอกจากนี้ในสตรีมีครรภ์ก็ไม่ควรรับประทานวิตามินเอมากจนเกินไปเพราะอาจส่งผลให้การเจริญเติบโตของทารกในครรภ์มีความผิดปกติขึ้นมาได้

  อาหารที่มีวิตามินเอสูง ได้แก่ ไข่ ตับ น้ำมันตับปลา ผักสีเหลืองส้ม (เช่น ฟักทอง แครอท) หรือผักใบเขียว (ผักโขม คะน้า ตำลึง)

อาหารเสริม 5 ประเภทที่อาจช่วยเรื่องลดสิวได้ Read More »

3 กลุ่มอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง หากไม่อยากเป็นสิว!

3 กลุ่มอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง หากไม่อยากเป็นสิว!

  “คนเป็นสิวมีอาหารแสลงหรืออาหารที่ต้องหลีกเลี่ยงด้วยเหรอ” คำถามนี้เป็นหนึ่งในข้อปฏิบัติตัวที่คนไข้สิวหลายคนไม่รู้ ทำให้เมื่อทานอาหารเหล่านี้เข้าไปจึงเกิดปัญหาสิวขึ้นมา คนที่มีสิวมากอยู่แล้วก็ยิ่งเห่อหนักขึ้นไปอีก ในปัจจุบันเราได้ค้นพบว่าอาหารบางอย่างจะไปรบกวนสมดุลในร่างกายหรือทำให้ฮอร์โมนบางตัวมีระดับเปลี่ยนแปลงไปแล้วกระตุ้นสิวขึ้นมาได้

  อาหารที่จะพูดถึงต่อไปนี้เป็นเพียงแค่คำแนะนำกว้างๆ ที่แม้แต่รายงานทางการแพทย์ก็ยังไม่ฟันธง 100% ดังนั้นจึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงแต่พอดีและควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้งนะคะ

  นอกจากจะมีอาหารต้องห้ามแล้วทางมิ่งขวัญคลินิกก็มีบทความอาหารเสริมที่ช่วยทำให้สิวดีขึ้น สามารถกดเข้าไปอ่านได้เลยค่ะ >>> อาหารเสริมที่ช่วยให้สิวดีขึ้น

รักษาสิวอย่างมีประสิทธิภาพ
ด้วยดีท็อกสิวและเลเซอร์

3 กลุ่มอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง หากไม่อยากเป็นสิว

  • You are what you eat กินอย่างไร ส่งผลต่อร่างกายอย่างนั้น เป็นประโยคที่เป็นความจริงค่ะ อาหารส่งผลต่อร่างกาย กินอาหารดีมีประโยชน์ ส่งผลให้สุขภาพดี กินอาหารไม่ดี สุขภาพย่อมเสื่อมโทรมสิ่งนี้ไม่ได้ส่งผลต่อระบบภายในเท่านั้น แต่ส่งผลต่อเรื่องผิวพรรณอีกด้วย
  • อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงหากไม่อยากเป็นสิวหลักๆจะแบ่งเป็น 3 กลุ่มค่ะ
น้ำตาล สิว

กลุ่มคาร์โบไฮเดรตที่มีดัชนีน้ำตาลสูง ( High glycemic index)

  คืออาหารตระกูลแป้งหรือน้ำตาลที่เมื่อทานเข้าไปแล้วถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดอย่างรวดเร็วๆ ทานบ่อยๆ ทานมากๆ จะส่งผลให้เกิดภาวะดื้อต่อฮอร์โมนอินซูลิน (Insulin resistance) จะส่งผลในการกระตุ้นให้มีการสร้างฮอร์โมนแอนโดนเจนมากขึ้น ซึ่งทำให้ต่อมไขมันขับน้ำมันออกมามากขึ้น กระตุ้นให้เกิดสิวและการอักเสบตามมาอีกด้วย

  • กลุ่มนี้จะเป็นแป้งหรือน้ำตาลสูงและมีไฟเบอร์อยู่น้อยหรือไม่มีไฟเบอร์ เช่น น้ำตาล ข้าวขาว แป้งขาวเส้นพาสต้า ขนมปังขาว น้ำอัดลม น้ำหวาน ชานมไข่มุก เค้ก เบเกอรี่ แครกเกอร์ เฟรนฟราย ขนมถุงน้ำผลไม้ อาหารจั้งฟูด
นม ผลิตภัณฑ์จากนม สิว

นมและผลิตภัณฑ์จากนม (Milk and Dairy products)

  เมื่อดื่มนมหรือบริโภคผลิตภัณฑ์จากนม จะทำให้มีร่างกายการหลั่งฮอร์โมน IGF-1 ซึ่งกระตุ้นให้เกิดสิวและการอักเสบตามมา และฮอร์โมนในนมเองยัง สามารถกระตุ้นให้ร่างกายเกิดสิว นอกจากนี้ผู้ที่มีปัญหาแพ้น้ำตาลในนมวัว ซึ่งพบมากถึง 90% ในประชากรของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาจเกิดปัญหาสิวตามมาจากปฏิกิริยาการแพ้น้ำตาลแลคโตส

  • เลี่ยงนมวัว นมปรุงรส (ช๊อคโกแลต, รสหวาน, นมเปรี้ยว) เวย์โปรตีน+++
น้ำมัน สิว

น้ำมันที่ผ่านกรรมวิธีหรือการแปรรูป

  ไขมันทรานส์และไขมันพืชที่สัดส่วน omega6:omega3 สูง เกิดสิวและการอักเสบตามมา

  • น้ำมันควรเลี่ยง: น้ำมันพืชเช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันจากคาโนล่า น้ำมันข้าวโพด น้ำมันรำข้าว เนยขาว มาการีน

น้ำมันที่ทานได้: น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก น้ำมันจากอาโวคาโด

รักษาสิวอย่างมีประสิทธิภาพ
ด้วยดีท็อกสิวและเลเซอร์

อาหาร หลีกเลี่ยง สิว

3 กลุ่มอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง หากไม่อยากเป็นสิว! Read More »

ไม่อยากเป็นสิว รู้จักสาเหตุและวิธีการรักษาสิวกันเถอะ

ไม่อยากเป็นสิว รู้จักสาเหตุและวิธีการรักษาสิวกันเถอะ

  การรู้ถึงสาเหตุและวิธีการรักษาสิวถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะพิชิตสิวให้หายขาดได้ สำหรับคนที่เป็นสิวนั้นย่อมเคยผ่านการลองผิดลองถูกมาบ้างไม่น้อยซึ่งในกรณีที่สิวไม่รุนแรงหรือมีปริมาณน้อยก็อาจจะสามารถรักษาให้หายเองได้ แต่ถ้าสิวที่ขึ้นนั้นมีปริมาณมากและมีความรุนแรง เช่น สิวอักเสบมาก สิวกลัดเป็นหนองขนาดใหญ่ กรณีนี้นอกจากจะรักษาด้วยตนเองไม่หายขาดแล้วยังอาจทำให้สิวรุนแรงมากกว่าเดิมจนทำให้เป็นปัญหาใหญ่ตามมาคือเป็นหลุมสิวจำนวนมากได้
  ดังนั้นการรักษาสิวที่ดีจำเป็นต้องเรียนรู้และเข้าใจถึงต้นกำเนิดของตัวสิวเองว่ามันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร การเปลี่ยนแปลงจากสิวไม่อักเสบเป็นสิวอักเสบรวมถึงการทำให้เกิดหลุมสิว ในบทความนี้เราจะลงรายละเอียดในประเด็นสาเหตุและการรักษาสิวค่ะ
  สำหรับคนที่ต้องการเรียนรู้เรื่องหลุมสิวเป็นหลัก แนะนำให้กดเข้าไปอ่านในบทความนี้ก่อนค่ะ >>> หลุมสิว

ต้องการรักษาสิวครบวงจร
เรียนรู้คอร์สรักษาสิว Acne clear Max

สิวคืออะไร?

  • โรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่เกิดจากการอุดตันของไขมันหรือ sebumในรูขุมขน
  • เกิดเป็นหัวสิวหรือ comedones หากมีตัวกระตุ้นอาจเกิดการอักเสบ (ปวด, บวม, แดง, ร้อน, เป็นหนอง)
  • ถ้าเกิดการอักเสบ จะส่งผลข้างเคียงเช่น รอยแดง รอยดำ หลุมสิว แผลเป็นตามมาได้

พบสิวที่บริเวณใด?

 มักพบบริเวณผิวที่มีต่อมไขมันขนาดใหญ่อยู่กันอย่างหนาแน่นเช่นใบหน้า คอ หน้าอก แผ่นหลัง

กลไกการเกิดสิวเกิดได้อย่างไร?

กลไกการเกิดสิวเกิดจากสาเหตุหลัก 3 ประการ

  1. ต่อมไขมันทำงานมากขึ้น (Seborrhea) เมื่อเข้าสู่วัยรุ่น ร่างกายจะมีการหลั่งฮอร์โมนแอนโดรเจน ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้จะกระตุ้นให้ต่อมไขมันมีขนาดใหญ่ขึ้นและผลิตไขมันออกมามากขึ้นถึง 500% ต่อมไขมันจะมีท่อเชื่อมเข้าไปในรูขุมขน ไขมันจะออกมาทางรูเปิดของรูขุมขน หากมีการขับหรือระบายของไขมันไม่ทัน ก็จะเกิดการสะสมและค้างของไขมันในรูขุมขน (อ่านต่อใน หน้ามันเกิดจากอะไร รักษาอย่างไร?)
  2. ภาวะขี้ไคลบริเวณรูขุมขนหนาตัวขึ้นผิดปกติ (Hyperkeratosis) สาเหตุเกิดจากไขมันที่ผลิตออกมากระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังบริเวณรูเปิดรูขุมขนสร้างขี้ไคลมากกว่าปกติ
  3. เชื้อแบคทีเรีย Cutibacterium acnes เพิ่มจำนวนมากขึ้น (Microbial colonization) เมื่อเกิดการอุดตันของรูขุมขนจะเกิดภาวะที่ไร้ออกซิเจนในรูขุมขน ซึ่งเป็นภาวะที่ทำให้เชื้อเพิ่มจำนวนได้ดีเนื่องจาก Cutibacterium acnes เป็นแบคทีเรียที่ไม่ต้องการออกซิเจนหรือ anaerobes แบคทีเรียตัวนี้จะปล่อยเอนไซม์ออกมาย่อยสลายไขมัน เพิ่มปริมาณสารกระตุ้นอักเสบ ส่งผลให้มีการอักเสบตามมา
กลไก การเกิด สิว

ต้องการรักษาสิวครบวงจร
เรียนรู้คอร์สรักษาสิว Acne clear Max

สิวมีกี่ชนิด?

สิวสามารถแบ่งหลักๆได้ 2 ชนิด คือ

  1. สิวไม่อักเสบ (non-inflammatory acne) สิวชนิดนี้จะไม่มีการปวด บวม แดง ร้อน เป็นหนองได้แก่สิวหัวขาว (สิวหัวปิด) และสิวหัวดำ (สิวหัวเปิด)
  2. สิวอักเสบ (inflammatory acne) มีลักษณะคือปวด บวม แดง ร้อนหรือเป็นหนองได้ โดยปกติสิวชนิดนี้มักทำเกิดผลข้างเคียงตามมาได้แก่รอยแดง รอยดำและหลุมสิว
ชนิด สิว

อะไรเป็นสาเหตุการเกิดสิว?

อาจแบ่งง่ายๆ เป็น 2 ปัจจัย คือ

  1. ปัจจัยภายใน คือปัจจัยจากภายในร่างกายเราเอง
    • กรรมพันธุ์ ถ้าพ่อหรือแม่มีปัญหาสิวรุนแรง ลูกเมื่อเข้าวัยรุ่นมักมีปัญหาสิวด้วย
    • ระดับฮอร์โมนเพศ (อ่านเพิ่มเติมใน เรื่องของฮอร์โมนกับผิว)
      • แอนโดนเจนเป็นฮอร์โมนเพศชายที่จะเริ่มหลั่งออกมาเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น โดยจะหลั่งทั้งในเพศชายและหญิง เป็นฮอร์โมนที่ไปกระตุ้นให้ต่อมไขมันให้มีขนาดใหญ่ขึ้น และผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น ส่งผลให้เมื่อเข้าวัยรุ่นผิวจะมันขึ้น รูขุมขนดูกว้างถ่างและเกิดสิวได้ง่าย
      • โปรเจสเตอโรนเป็นฮอร์โมนในเพศหญิง ที่จะหลั่งออกมามากช่วงก่อนมีประจำเดือน หรือช่วงตั้งครรภ์ เป็นฮอร์โมนที่ส่งผลให้มีการบวมของรูขุมขน ทำให้เกิดสิวได้ง่ายขึ้น
  2. ปัจจัยภายนอก คือปัจจัยที่เกิดจากพฤติกรรม การนอน การทานอาหาร การใช้เครื่องสำอาง ยาสภาพแวดล้อม ซึ่งสามารถป้องกันได้
    • อาหาร (อ่านเพิ่มเติมใน 3 กลุ่มอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงหากไม่อยากเป็นสิว)
    • ยาบางชนิด เช่น ยากันชักสเตียรอยด์ (ในรูปแบบการทา, กิน, ฉีด)
    • เครื่องสำอาง เช่น รองพื้นครีมเนื้อหนักๆ ครีมใส่ผม น้ำมันหรือแว็กส์ใส่ผม
    • ความเครียดจะกระตุ้นให้ต่อมไขมันทำงานมากขึ้น
    • นอนน้อยกระตุ้นให้ต่อมไขมันทำงานมากขึ้น
สาเหตุ สิว

การรักษาสิวทำอย่างไร?

  • มาตรฐานในการรักษาสิวในปัจจุบันมีทั้งยาทาและยารับประทาน โดยจะใช้การทายาเป็นพื้นฐานในทุกๆเคส และเสริมยารับประทานในเคสที่มีความรุนแรงมากขึ้น
  • คนไข้ต้องเข้าใจพื้นฐานการดูแลผิว หลีกเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดสิว
  • นอกจากนี้เราสามารถเสริมการรักษาสิวด้วยการทำทรีทเม้นท์รักษาสิว การกดสิว การฉีดสิว การดีท็อกซ์ผิว การใช้เลเซอร์ การฉายแสงสีฟ้าเพื่อให้สิวหายเร็วขึ้น ลดผลข้างเคียงที่เกิดจากการเป็นสิว (อ่านเพิ่มเติมใน Acne clear max)
  • ระยะเวลาที่ใช้ในการรักษาสิวจะใช้เวลา 4 อาทิตย์ถึง 6 เดือนขึ้นกับความรุนแรง
  • โดยแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่ระยะเริ่มแรกที่เป็นสิว เพื่อให้การรักษาสิวมีประสิทธิภาพสูงสุด ลดความรุนแรงได้อย่างรวดเร็วและป้องกันผลข้างเคียงจากการเป็นสิวที่เป็นแล้วเป็นเลยเช่นหลุมสิว ที่ถึงแม้ว่าทำการรักษาโดยนวัตกรรมหลายชนิด ผลลัพธ์ก็จะไม่ 100% ดังนั้นถ้าเป็นสิว ต้องรีบหาย อย่าปล่อยยืดเยื้อ

ไม่อยากเป็นสิว รู้จักสาเหตุและวิธีการรักษาสิวกันเถอะ Read More »