รักษาสิว

รักษาสิวอย่างไรโดยไม่กินยา?

รักษาสิวโดยไม่กินยา ทำได้ไหม?

  ในปัจจุบันการรักษาสิวโดยไม่กินยามีความเป็นไปได้มากขึ้น ซึ่งแตกต่างจากในอดีตที่การรักษาสิวโดยไม่กินยาทำได้ยากและมีข้อจำกัดอยู่เฉพาะกรณีที่เป็นสิวเล็กน้อยหรือสิวจากเครื่องสำอางค์ที่ไม่รุนแรงเท่านั้น ปัจจัยสำคัญที่ทำให้การรักษาสิวโดยไม่พึ่งยาทานมีแนวโน้มที่ดีขึ้น คือ การพัฒนาของยาทาชนิดใหม่ เครื่องเลเซอร์ที่ออกแบบมาเพื่อกำจัดต่อมไขมันและสิวโดยเฉพาะ รวมถึงการใช้คลื่นความถี่วิทยุ (monopolar RF) ซึ่งช่วยลดขนาดของต่อมไขมันให้เล็กลง ทำให้สิวลดลงโดยไม่จำเป็นต้องพบแพทย์บ่อยครั้ง และในบางรายอาจหายขาดจากสิวได้เลยทีเดียว

ทำไมถึงต้องกินยารักษาสิว?

  เราต้องรู้ก่อนว่ายากินรักษาสิวแบ่งออกเป็น

  1. ยากินแบบชั่วคราว เช่น ยาฆ่าเชื้อ แพทย์จะสั่งให้เมื่อมีสิวอักเสบจำนวนมากและหยุดให้เมื่อสิวอักเสบดีขึ้น โดยทั่วไปจะให้ทาน 1-2 สัปดาห์ ในกลุ่มยาประเภทนี้แนะนำให้คนไข้กินยาเพราะค่าใช้จ่ายไม่แพงและกินเพียงระยะเวลาสั้นๆ แต่ถ้ามีเหตุผลที่ไม่สามารถกินยาได้ก็เปลี่ยนวิธีเป็นเลเซอร์หรือ monopolar RF pen ที่จะกล่าวถึงในบทความข้างล่างค่ะ
  2. ยากินอีกจำพวก เช่น ยาลดการทำงานของต่อมไขมัน ยาคุมกำเนิด หรือยาที่ลดการทำงานของฮอร์โมนเพศชาย ยาเหล่านี้นำมาใช้เฉพาะคนที่เป็นสิวรุนแรงหรือสิวฮอร์โมนที่ควบคุมไม่ได้ ซึ่งยาในกลุ่มนี้แหละที่คนไข้ส่วนใหญ่ไม่ค่อยอยากกินเนื่องจากต้องกินยาติดต่อเป็นเวลานานหลายเดือน
  • แพทย์มีเกณฑ์ในการให้ยารักษาสิวโดยสงวนไว้ใช้ในการรักษาสิวที่รุนแรง สิวที่ควบคุมไม่ได้ด้วยการใช้ยาทาเพียงอย่างเดียวหรือเป็นสิวเรื้อรังที่เราไม่สามารถกำจัดสาเหตุสิวได้ก็จำเป็นที่จะต้องกินยา โดยยาที่ให้ในคนไข้เหล่านี้เป็นพวกยาลดการทำงานของต่อมไขมัน หรือยาคุมกำเนิดซึ่งขึ้นกับวิจารญาณของแพทย์ที่ให้การรักษา
  • เหตุที่ต้องให้กินยาเนื่องจากหากปล่อยให้สิวรุนแรงต่อไปจะทำให้มีสิวอักเสบจำนวนมากและเกิดเป็นหลุมสิวที่ยากต่อการรักษา
  • การหาสาเหตุของสิวเป็นเรื่องที่สำคัญมาก จากประสบการณ์ของหมอในคนไข้ที่หาสาเหตุได้จะทำให้รักษาสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างมาก บางคนแค่ใช้ยาทาเพียง 2-4 สัปดาห์แล้วสิวหายสนิทไปเลยก็มี สำหรับสาเหตุของสิวสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความนี้ค่ะ >>> สาเหตุของสิว

รักษาสิว
ไม่กินยา

แล้วกรณีไหนที่ห้ามกินยาหรือต้องไม่กินยา

  • ในกลุ่มสิววัยรุ่น เนื่องจากยาทำให้กระดูกหยุดการเจริญเติบโตหรือพูดง่ายๆ ว่าทำให้หยุดสูง หรือไปรบกวนฮอร์โมนเพศซึ่งอาจทำให้ไปการเจริญเติบโตของร่างกายผิดปกติไป
  • ในผู้หญิงที่วางแผนจะมีบุตร เนื่องจากยาเหล่านี้ทำให้ทารกในครรภ์ผิดปกติ มีเพศกำกวม เกิดการแท้งบุตร หรือการกินยาคุมกำเนิดก็ไม่สามารถทำให้ตั้งครรภ์ได้
  • เมื่อมีอาการแพ้ยาดังกล่าว
  • มีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคตับ โรคไต ไขมันในเลือดสูง หรือมีประวัติครอบครัวป่วยเป็นมะเร็งเต้านม

รักษาสิวโดยไม่กินยา ด้วยยาทาและเวชสำอางค์

  การรักษาสิวด้วยยาทาและเวชสำอางค์นับเป็นวิธีหลักที่แพทย์นำมาใช้เป็นอันดับแรก เพราะเป็นวิธีที่ประหยัด สามารถใช้ได้ต่อเนื่อง ค่อนข้างปลอดภัย มีผลข้างเคียงน้อยหรือไม่มีเลย และคนไข้ไม่จำเป็นต้องเดินทางมาคลินิก/โรงพยาบาลเพื่อมารักษาบ่อยๆ

  • ยาทารักษาสิวมีหลายชนิดมาก เช่น ยากลุ่มผลัดลอกผิว ยากลุ่มวิตามินเอ ยาฆ่าเชื้อ ยาทารักษาสิวฮอร์โมน และในปัจจุบันมียาทาชนิดใหม่ๆ เข้ามาในตลาดอย่างต่อเนื่อง (โดยเฉพาะในต่างประเทศ) ที่มิ่งขวัญคลินิกมียาทา 7 ชนิดที่นำมาเลือกใช้ให้เหมาะสมกับผิวหน้าและสาเหตุสิวของคนไข้แต่ละคน
  • กลุ่มเวชสำอางค์สำหรับสิว คือ กลุ่มเครื่องสำอางค์ที่ทำไว้สำหรับผิวของคนไข้ที่เป็นสิว โดยมีส่วนผสมของสารผลัดเซลล์ผิวหรือไม่มีสารกระตุ้นสิว แต่อย่างไรก็ประสิทธิภาพในการรักษาสิวของกลุ่มเวชสำอางค์ก็ไม่สามารถเทียบได้กับยารักษาสิว
  • การเลือกใช้ยาและเวชสำอางค์ให้เหมาะสมกับสาเหตุของสิวและสภาพผิวของคนไข้มีส่วนสำคัญมาก กลุ่มคนผิวมันและผิวแข็งแรงจะเหมาะกับกลุ่มยาหรือเวชสำอางค์แบบนึง ในขณะที่คนผิวแห้งผิวแพ้ง่ายก็จะเหมาะกับยาหรือเวชสำอางค์อีกประเภทนึง จึงไม่สูตรตายตัว

รักษาสิวด้วยเลเซอร์

รักษาสิว เลเซอร์   ในปัจจุบันมีการนำเลเซอร์มาใช้ในการรักษาปัญหาผิวหน้าหลายชนิด เช่น ริ้วรอย รอยแดง รอยดำ รวมถึงหลุมสิว แต่มีเลเซอร์เพียงไม่กี่ชนิดที่สามารถรักษาสิวได้โดยตรง โดยการทำลายต่อมไขมันที่เป็นต้นเหตุของสิว ทำให้ผิวหน้ามันน้อยลง และเกิดสิวใหม่ได้ยากขึ้น ทว่า เนื่องจากเป็นเครื่องเลเซอร์เฉพาะทาง คลินิกส่วนใหญ่จึงมักไม่มีเครื่องชนิดนี้
  • เลเซอร์รักษาสิวใช้ความยาวคลื่นที่จำเพาะต่อน้ำมัน ทำให้เกิดความร้อนที่ต่อมไขมัน ส่งผลให้ต่อมไขมันฝ่อลง
  • ผลลัพธ์สามารถเห็นได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ส่วนใหญ่แนะนำให้ทำ 3-6 ครั้ง
  • คนไข้จะรู้สึกอุ่นๆ บริเวณผิวหน้าระหว่างทำ ไม่ทำให้รู้สึกเจ็บจึงไม่จำเป็นต้องแปะยาชาทาก่อนทำ

ใช้ Monopolar RF Pen ทำให้สิวยุบโดยไม่ต้องกินยา

Acgen monopolar RF   เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือรักษาสิวโดยตรง หลักการของ Monopolar RF Pen คือเครื่องจะปล่อยคลื่นวิทยุหรือ Radiofrequency (RF) ผ่านหัวเข็มพิเศษขนาดเล็กลงสู่ต่อมไขมันจุดที่มีปัญหาโดยตรง ทำให้ต่อมไขมันจุดนั้นฝ่อ ลดการขับน้ำมัน จบปัญหาสิวจากต้นตอ
  • เหมาะสำหรับสิวที่เป็นเรื้อรังและเป็นบริเวณเดิมซ้ำๆ โดยทั่วไปสิวประเภทนี้มักมีความผิดปกติของรูขุมขนทำให้เกิดสิวซ้ำๆ
  • สิวที่โดนรักษาจะมีขนาดเล็กลง ผลิตน้ำมันหรือสิวได้น้อยลง
  • ไม่ทำให้ผิวแห้ง จึงเหมาะกับสิวที่เกิดกับคนไข้ผิวแห้ง
  • แนะนำทำเดือนละครั้งต่อเนื่องกัน 3-5 ครั้ง
  • รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถกดเข้าไปอ่านที่ >>> บทความ Monopolar RF

การรักษาแบบหลายเทคนิคผสมผสานกัน

  จะเห็นได้่ว่าปัจจุบันมีทั้งยาทาและเครื่องมือในการรักษาสิวมากขึ้น ทางคลินิกจึงได้ผสมผสานการรักษาเข้าด้วยกันเพื่อประสิทธิภาพในการรักษาให้ดียิ่งขึ้นและเกิดข้างเคียงน้อยที่สุด แต่การเลือกวิธีการรักษาเหล่านี้จำเป็นที่จะต้องเข้าใจสาเหตุของสิวและสภาพผิวหน้าของคนไข้ก่อนเพื่อเลือกการรักษาที่เหมาะสมที่สุดกับคนไข้ในแต่ละคน กรณีที่คนไข้ไม่ทราบว่าจะรักษาสิวอย่างไรดี แนะนำให้เข้ามาตรวจกับแพทย์ที่คลินิกก่อนได้ค่ะ

รักษาสิว
ไม่กินยา

ตัวอย่างคนไข้รักษาสิวที่ไม่กินยาแต่สิวก็ดีขึ้นได้

คนไข้ รักษาสิว ไม่กินยา
รูป 1 – เลเซอร์รักษาสิวและยาทา
คนไข้ รักษาสิว ไม่กินยา
รูป 2 – เลเซอร์รักษาสิวและ Monopolar RF Pen

รักษาสิวอย่างไรโดยไม่กินยา? Read More »

Acgen นวัตกรรมคลื่นวิทยุในการรักษาสิว

Acgen (แอกเจน) นวัตกรรมคลื่นวิทยุในการรักษาสิวเรื้อรัง สิวอักเสบ

  ปัจจุบันได้มีเครื่องมือคลื่นวิทยุ Radiofrequency (RF) ในการรักษาสิวชนิดใหม่ที่เรียกว่า Acgen (แอกเจน) ซึ่งเหมาะกับคนไข้หลายคนที่มีปัญหาสิวฮอร์โมน สิวที่คางและกรอบหน้า สิวไตอักเสบเรื้อรังที่รักษาไม่หาย ไม่จบเสียที ขึ้นซ้ำขึ้นซากที่ตำแหน่งเดิมๆ การรักษาสิวเหล่านี้แต่เดิมจะใช้วิธีการทานยาไม่ว่าจะเป็นยาแก้อักเสบ ยาฆ่าเชื้อรวมถึงยาลดความมันกลุ่มกรดวิตามินเอที่ทำให้ผิวแห้ง ปากแห้ง ส่งผลกระทบทุกรูขุมขนทั่วร่างกายทั้งที่มีปัญหาและไม่มีปัญหาเรื่องสิว วันนี้หมอจะมาแนะนำ Acgen (แอกเจน) นวัตกรรมเครื่องมือรักษาสิวเฉพาะรูขุมขนหรือบริเวณที่มีปัญหาสิวโดยเฉพาะ ไม่รบกวนบริเวณที่ปกติหรือไม่ต้องการให้ผิวแห้ง ทำให้ลดปริมาณและระยะเวลาในการทานยา ลดการกลับมาเป็นสิวซ้ำเพื่อให้คนไข้ไม่ต้องทนทรมานกับปัญหานี้ต่อไป

สารบัญ คลิกอ่าน

Acgen (แอกเจน) คืออะไร?

  Acgen (แอกเจน) เป็นนวัตกรรมเครื่องมือที่รักษาสิวที่ต้นตอ โดยใช้วิธีการปล่อยคลื่นวิทยุหรือ Radiofrequency (RF) ผ่านหัวเข็มพิเศษขนาดเล็ก ลงสู่ต่อมไขมันจุดที่มีปัญหาโดยตรง ทำให้ต่อมไขมันจุดนั้นฝ่อ ลดการขับน้ำมัน จบปัญหาสิวจากต้นตอ เครื่อง Acgen ผลิตมาจาก บริษัท Jeisys จากประเทศเกาหลีใต้

กลไกการเกิดสิวเป็นอย่างไร?

  ก่อนจะมาเข้าใจกลไกของ Acgen อย่างแรกต้องเข้าใจกลไกการเกิดสิวก่อนว่าเกิดจากปัจจัยหลัก 3 ปัจจัยด้วยกันคือ
  1. ต่อมไขมันทำงานมาก ทำให้ขับน้ำมันออกมามาก ส่งผลให้ผิวมัน หากมีการระบายของน้ำมันไม่ทันก็ จะเกิดการสะสมและคั่งค้างของน้ำมันในรูขุมขน
  2. ภาวะขี้ไคลบริเวณรูขุมขนหนาตัวผิดปกติ ซึ่งเกิดจากการกระตุ้นของน้ำมันที่ขับออกมา ทำให้มีการสร้างขี้ไคลออกมามากกว่าปกติออกมาปิดบริเวณรูเปิดของรูขุมขน ส่งผลให้น้ำมันขับออกมาที่ผิวหน้าไม่ได้และเกิดเป็นเม็ดสิวอุดตัน (comedone) ขึ้นที่ผิวหน้า
  3. เชื้อแบคทีเรีย Cutibacterium acnes เพิ่มจำนวนมากขึ้น ซึ่งแบคทีเรียตัวนี้จะใช้น้ำมันเป็นอาหาร และจะปล่อยเอนไซม์ออกมาย่อยน้ำมัน ทำให้เกิดการเพิ่มปริมาณสารกระตุ้นอักเสบ ส่งผลให้มีการอักเสบตามมา สิวที่เป็นสิวอุดตันจะกลายร่างเป็นสิวอักเสบขึ้นมา
กลไก สิว

  จากปัจจัยทั้ง 3 จะเห็นได้ว่าต่อมไขมันที่ทำงานมากและไขมันที่ผลิตออกมา เป็นสาเหตุที่ทำให้ปัจจัยเรื่องขี้ไคลบริเวณรูขุมขนรุนแรงขึ้นและเชื้อแบคทีเรีย C.acnes เพิ่มจำนวนมากขึ้น

โปรโมชั่น
Acgen รักษาสิวเรื้อรัง

หลักการรักษาสิวเรื้อรังของ Acgen (แอกเจน) เป็นอย่างไร?

Acgen คลื่นวิทยุ หลักการ

  การทำงานของ Acgen นั้นจะเกี่ยวข้องกับต่อมไขมันที่ทำงานมากขึ้นซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุการเกิดสิว ซึ่งหลักการของ Acgen (แอกเจน) นั้นจะปล่อยพลังงานคลื่นวิทยุ Radiofrequency (RF) เข้าสู่ต่อมไขมันที่มีปัญหา หลังจากนั้นพลังงาน RF จะเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนเข้าไปทำลายต่อมไขมันนั้น ส่งผลให้ต่อมไขมันฝ่อตัวและสร้างน้ำมันลดลง จึงเป็นการจบปัญหาสิวที่ต้นตอ
  การปล่อยคลื่นวิทยุ RF ของเครื่องแอกเจนนั้นจะปล่อยผ่านเข็มชนิดพิเศษที่หุ้มด้ามเข็มด้วยฉนวนแต่เว้นส่วนปลายเข็ม (Microinsulated needle) ทำให้สามารถปล่อยพลังงานได้เฉพาะปลายเข็มลงสู่ต่อมไขมันโดยไม่มีกระทบผิวส่วนบน จึงไม่มีสะเก็ดหลังทำ นอกจากนี้ยังสามารถเลือกตำแหน่งของต่อมไขมันที่ต้องการรักษาได้ (selective) โดยไม่ไปกระทบกับต่อมไขมันปกติอื่นๆ บนผิวหน้า

Acgen (แอกเจน) เหมาะกับการรักษาสิวประเภทไหนบ้าง?

  Acgen จะมีหัวเข็มอยู่ 3 แบบ แต่ละแบบจะแก้ปัญหาสิวคนละชนิดกัน ซึ่งออกแบบมารักษาสิวได้ทุกชนิดทั้งสิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวเสี้ยน หัวเข็ม รักษา สิว แต่หมอจะแนะนำมากๆ สำหรับ
  1. เคสสิวอักเสบเรื้อรัง
  2. เคสสิวที่ชอบเกิดซ้ำๆ ที่เดิม
  3. เคสสิวฮอร์โมนบริเวณรอบปาก คาง แนวกรามที่กวนใจทุกเดือน
  4. เคสที่ต้องการป้องกันการเกิดสิวในผู้เป็นสิวและเกิดแผลเป็นง่าย

การรักษาด้วยแอกเจนทำให้ผิวแห้งหรือไม่?

  คำตอบคือ “ไม่” จุดแข็งที่สำคัญของ Acgen ก็คือการรักษาเฉพาะต่อมไขมันหรือบริเวณที่มีปัญหาเท่านั้น (Selective) ซึ่งต่อมไขมันบริเวณนี้จะมีลักษณะจำเพาะนั้นคือมีการเพิ่มจำนวนเซลล์และเซลล์ที่ผลิตไขมันอ้วนเต่งตึง โดยเข็มจะปล่อยพลังงานคลื่นวิทยุลงไป ทำให้ต่อมไขมันบริเวณนั้นฝ่อแห้งลงไปเป็นปกติ ซึ่งจะไม่กระทบบริเวณปกติที่ไม่มีปัญหาสิว ดังนั้นหากผู้ให้การรักษามีประสบการณ์และความรู้ที่ดีพอก็จะไม่ทำให้เกิดภาวะต่อมไขมันถูกทำลายมากเกินไปได้

จุดเด่นในการรักษาสิวด้วย Acgen คืออะไร?

  • รักษาสิวที่ต้นต่อตรงบริเวณรูขุมขนที่ทำให้เกิดสิว
  • ลดปริมาณและระยะเวลาที่ต้องทานยา
  • ไม่ทำให้ผิวแห้งเหมือนการทานยากลุ่มกรดวิตามินเอ เพราะเป็นการรักษาที่ต่อมไขมันที่มีปัญหาเท่านั้นซึ่งเป็นการรักษาที่ต้นตอ ไม่กระทบกับบริเวณอื่น
  • ไม่มีสะเก็ด ต่างจากการทำเลเซอร์เพื่อเปิดหัวสิวที่เป็นเพียงการใช้เลเซอร์เจาะเปิดหัวสิว ไม่ได้เป็นการรักษาจากต้นตอของปัญหาและยังมีสะเก็ด

โปรโมชั่น
Acgen รักษาสิวเรื้อรัง

ขั้นตอนในการทำเป็นอย่างไร

  1. ผู้ช่วยทำความสะอาดผิวด้วย Cleansing milk
  2. ทายาชาทิ้งไว้ 30-45 นาที (ในความเห็นของหมอเอง เจ็บน้อยกว่าฉีดสิว ถ้าสิวไม่เยอะ ไม่แปะยาชาหมอว่าไหวค่ะ)
  3. แพทย์เป็นคนยิง Acgen ตามจุดหรือบริเวณที่มีปัญหา

ขั้นตอนในการทำ Acgen สิวจะทำอย่างไร

  1. หลังทำทันที สิวอาจดูบวมขึ้นเล็กน้อย
  2. วันรุ่งขึ้น สิวจะดูแห้งลงประมาณ 70-80%
  3. 3 วันสิวแห้งสนิท เวลาจับที่ผิวอาจรู้สึกถึงหัวสิวที่แห้งและพร้อมผลัดออก

ทำแอกเจนแล้วต้องทานยาหรือไม่?

  ในความเห็นหมอคือขึ้นกับเคสค่ะ ถ้าเป็นรุนแรงอยากให้จบไวๆ หมอจะจ่ายยาทานร่วมด้วย แต่ข้อดีในการทำ Acgen คือลดระยะเวลาและปริมาณในการทานยาค่ะ รายละเอียดการใช้ยารักษาสิวสามารถเข้าไปดูได้ที่หน้านี้ค่ะ >>> รักษาสิวด้วยการใช้ยา

Acgen ต้องทำกี่ครั้ง?

  ทำเดือนละครั้งต่อเนื่องกัน 3-5 ครั้ง

Acgen ปลอดภัยหรือไม่?

  Acgen เป็นเครื่องมือที่มีความปลอดภัย ผ่านองค์การอาหารและยาของประเทศไทยและประเทศเกาหลี

ทำไมต้องทำ Acgen ที่มิ่งขวัญคลินิก?

acgen คลื่นวิทยุ รักษาสิว มิ่งขวัญคลินิก
  1. เพราะเราเชี่ยวชาญในการรักษาสิว เป็นคลินิกรักษาสิวครบวงจรตั้งแต่การป้องกันสิว รักษาสิวและการรักษาผลข้างเคียงจากสิวไม่ว่าจะเป็นหลุมสิว รอยดำ เรารู้ว่าต้องเลือกเคสอย่างไรให้เหมาะกับการรักษาเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
  2. ทุกเคสต้องได้รับการตรวจวินิจฉัย รักษา กดสิว ฉีดสิว ทำหัตถการ ติดตามอาการโดยแพทย์เท่านั้น การรักษาจะถูกวางแผนให้เหมาะกับคนไข้แต่ละคน เราไม่มีระบบยาชุดที่ทุกคนที่ไปได้ยาชุดเดียวกันหมด เราออกแบบการรักษาให้จำเพาะกับคนไข้แต่ละคน
  3. เราใช้นวัตกรรมในการรักษาที่มีงานวิจัยหรือข้อมูลทางการแพทย์มารองรับ
  4. แพทย์ใส่แว่นตาขยายกำลังสูง (Loupes) ในการรักษา จึงทำให้เห็นต่อมไขมันและใช้ acgen จี้ต่อมไขมันที่มีปัญหาได้อย่างแม่นยำ
  5. ราคาสมเหตุผล จริงใจตรงไปตรงมา ไม่มีการหมกเม็ด ไม่มีพนักงานขาย
acgen แพทย์ แว่นขยาย มิ่งขวัญคลินิก
ภาพปกติ ภาพขยายจากการใส่ loupes
ตัวอย่างภาพจากการดูปกติกับผ่านแว่นขยาย loupes

รีวิวผลลัพธ์การรักษาสิวด้วย Acgen

***ผลลัพธ์ขึ้นกับแต่ละบุคคล*** ***ไม่ได้ใช้ photoshop ในการตกแต่งสิว***

ผลลัพธ์ Acgen ผลลัพธ์ Acgen

ค่าใช้จ่ายในการรักษา

  ขึ้นกับจำนวนช็อตในการใช้รักษา โดยทั่วไปสิวอักเสบขนาดใหญ่ใช้ 6 ช็อต, สิวอักเสบขนาดเล็กใช้ 2-5 ช็อตและสิวอุดตันใช้ 1-2 ช็อต
  • ไม่เกิน 50 ช็อต ราคาครั้งละ 1,500 บาท – เหมาะสำหรับสิวอักเสบเล็กน้อย
  • ไม่เกิน 100 ช็อต ราคาครั้งละ 2,000 บาท – เหมาะสำหรับสิวอักเสบเล็กน้อย-ปานกลาง
  • ไม่เกิน 200 ช็อต ราคาครั้งละ 3,000 บาท – เหมาะสำหรับสิวอักเสบเปานกลาง
  • Acgen ไม่จำกัดช็อต + ทรีทเมนท์ Acne free (มีกดสิว เลเซอร์สิวที่จำเพาะต่อต่อมไขมัน ฉายแสง blue light)
    • ค่าใช้จ่ายในการทำ Acgen ครั้งละ 8,900 บาท
    • คอร์ส 3 ครั้ง ราคา 22,900 บาท
    • คอร์ส 5 ครั้ง ราคา 29,900 บาท
    • ใช้เวลาในการทำ 2 ชั่วโมง (ทายาชา 1 ชั่วโมง + ทำหัตถการ 1 ชั่วโมง)
  • ที่มิ่งขวัญคลินิก แพทย์เป็นผู้ทำเท่านั้น

Acgen นวัตกรรมคลื่นวิทยุในการรักษาสิว Read More »

ไม่อยากเป็นสิว รู้จักสาเหตุและวิธีการรักษาสิวกันเถอะ

ไม่อยากเป็นสิว รู้จักสาเหตุและวิธีการรักษาสิวกันเถอะ

  การรู้ถึงสาเหตุและวิธีการรักษาสิวถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะพิชิตสิวให้หายขาดได้ สำหรับคนที่เป็นสิวนั้นย่อมเคยผ่านการลองผิดลองถูกมาบ้างไม่น้อยซึ่งในกรณีที่สิวไม่รุนแรงหรือมีปริมาณน้อยก็อาจจะสามารถรักษาให้หายเองได้ แต่ถ้าสิวที่ขึ้นนั้นมีปริมาณมากและมีความรุนแรง เช่น สิวอักเสบมาก สิวกลัดเป็นหนองขนาดใหญ่ กรณีนี้นอกจากจะรักษาด้วยตนเองไม่หายขาดแล้วยังอาจทำให้สิวรุนแรงมากกว่าเดิมจนทำให้เป็นปัญหาใหญ่ตามมาคือเป็นหลุมสิวจำนวนมากได้
  ดังนั้นการรักษาสิวที่ดีจำเป็นต้องเรียนรู้และเข้าใจถึงต้นกำเนิดของตัวสิวเองว่ามันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร การเปลี่ยนแปลงจากสิวไม่อักเสบเป็นสิวอักเสบรวมถึงการทำให้เกิดหลุมสิว ในบทความนี้เราจะลงรายละเอียดในประเด็นสาเหตุและการรักษาสิวค่ะ
  สำหรับคนที่ต้องการเรียนรู้เรื่องหลุมสิวเป็นหลัก แนะนำให้กดเข้าไปอ่านในบทความนี้ก่อนค่ะ >>> หลุมสิว

ต้องการรักษาสิวครบวงจร
เรียนรู้คอร์สรักษาสิว Acne clear Max

สิวคืออะไร?

  • โรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่เกิดจากการอุดตันของไขมันหรือ sebumในรูขุมขน
  • เกิดเป็นหัวสิวหรือ comedones หากมีตัวกระตุ้นอาจเกิดการอักเสบ (ปวด, บวม, แดง, ร้อน, เป็นหนอง)
  • ถ้าเกิดการอักเสบ จะส่งผลข้างเคียงเช่น รอยแดง รอยดำ หลุมสิว แผลเป็นตามมาได้

พบสิวที่บริเวณใด?

 มักพบบริเวณผิวที่มีต่อมไขมันขนาดใหญ่อยู่กันอย่างหนาแน่นเช่นใบหน้า คอ หน้าอก แผ่นหลัง

กลไกการเกิดสิวเกิดได้อย่างไร?

กลไกการเกิดสิวเกิดจากสาเหตุหลัก 3 ประการ

  1. ต่อมไขมันทำงานมากขึ้น (Seborrhea) เมื่อเข้าสู่วัยรุ่น ร่างกายจะมีการหลั่งฮอร์โมนแอนโดรเจน ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้จะกระตุ้นให้ต่อมไขมันมีขนาดใหญ่ขึ้นและผลิตไขมันออกมามากขึ้นถึง 500% ต่อมไขมันจะมีท่อเชื่อมเข้าไปในรูขุมขน ไขมันจะออกมาทางรูเปิดของรูขุมขน หากมีการขับหรือระบายของไขมันไม่ทัน ก็จะเกิดการสะสมและค้างของไขมันในรูขุมขน (อ่านต่อใน หน้ามันเกิดจากอะไร รักษาอย่างไร?)
  2. ภาวะขี้ไคลบริเวณรูขุมขนหนาตัวขึ้นผิดปกติ (Hyperkeratosis) สาเหตุเกิดจากไขมันที่ผลิตออกมากระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังบริเวณรูเปิดรูขุมขนสร้างขี้ไคลมากกว่าปกติ
  3. เชื้อแบคทีเรีย Cutibacterium acnes เพิ่มจำนวนมากขึ้น (Microbial colonization) เมื่อเกิดการอุดตันของรูขุมขนจะเกิดภาวะที่ไร้ออกซิเจนในรูขุมขน ซึ่งเป็นภาวะที่ทำให้เชื้อเพิ่มจำนวนได้ดีเนื่องจาก Cutibacterium acnes เป็นแบคทีเรียที่ไม่ต้องการออกซิเจนหรือ anaerobes แบคทีเรียตัวนี้จะปล่อยเอนไซม์ออกมาย่อยสลายไขมัน เพิ่มปริมาณสารกระตุ้นอักเสบ ส่งผลให้มีการอักเสบตามมา
กลไก การเกิด สิว

ต้องการรักษาสิวครบวงจร
เรียนรู้คอร์สรักษาสิว Acne clear Max

สิวมีกี่ชนิด?

สิวสามารถแบ่งหลักๆได้ 2 ชนิด คือ

  1. สิวไม่อักเสบ (non-inflammatory acne) สิวชนิดนี้จะไม่มีการปวด บวม แดง ร้อน เป็นหนองได้แก่สิวหัวขาว (สิวหัวปิด) และสิวหัวดำ (สิวหัวเปิด)
  2. สิวอักเสบ (inflammatory acne) มีลักษณะคือปวด บวม แดง ร้อนหรือเป็นหนองได้ โดยปกติสิวชนิดนี้มักทำเกิดผลข้างเคียงตามมาได้แก่รอยแดง รอยดำและหลุมสิว
ชนิด สิว

อะไรเป็นสาเหตุการเกิดสิว?

อาจแบ่งง่ายๆ เป็น 2 ปัจจัย คือ

  1. ปัจจัยภายใน คือปัจจัยจากภายในร่างกายเราเอง
    • กรรมพันธุ์ ถ้าพ่อหรือแม่มีปัญหาสิวรุนแรง ลูกเมื่อเข้าวัยรุ่นมักมีปัญหาสิวด้วย
    • ระดับฮอร์โมนเพศ (อ่านเพิ่มเติมใน เรื่องของฮอร์โมนกับผิว)
      • แอนโดนเจนเป็นฮอร์โมนเพศชายที่จะเริ่มหลั่งออกมาเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น โดยจะหลั่งทั้งในเพศชายและหญิง เป็นฮอร์โมนที่ไปกระตุ้นให้ต่อมไขมันให้มีขนาดใหญ่ขึ้น และผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น ส่งผลให้เมื่อเข้าวัยรุ่นผิวจะมันขึ้น รูขุมขนดูกว้างถ่างและเกิดสิวได้ง่าย
      • โปรเจสเตอโรนเป็นฮอร์โมนในเพศหญิง ที่จะหลั่งออกมามากช่วงก่อนมีประจำเดือน หรือช่วงตั้งครรภ์ เป็นฮอร์โมนที่ส่งผลให้มีการบวมของรูขุมขน ทำให้เกิดสิวได้ง่ายขึ้น
  2. ปัจจัยภายนอก คือปัจจัยที่เกิดจากพฤติกรรม การนอน การทานอาหาร การใช้เครื่องสำอาง ยาสภาพแวดล้อม ซึ่งสามารถป้องกันได้
    • อาหาร (อ่านเพิ่มเติมใน 3 กลุ่มอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงหากไม่อยากเป็นสิว)
    • ยาบางชนิด เช่น ยากันชักสเตียรอยด์ (ในรูปแบบการทา, กิน, ฉีด)
    • เครื่องสำอาง เช่น รองพื้นครีมเนื้อหนักๆ ครีมใส่ผม น้ำมันหรือแว็กส์ใส่ผม
    • ความเครียดจะกระตุ้นให้ต่อมไขมันทำงานมากขึ้น
    • นอนน้อยกระตุ้นให้ต่อมไขมันทำงานมากขึ้น
สาเหตุ สิว

การรักษาสิวทำอย่างไร?

  • มาตรฐานในการรักษาสิวในปัจจุบันมีทั้งยาทาและยารับประทาน โดยจะใช้การทายาเป็นพื้นฐานในทุกๆเคส และเสริมยารับประทานในเคสที่มีความรุนแรงมากขึ้น
  • คนไข้ต้องเข้าใจพื้นฐานการดูแลผิว หลีกเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดสิว
  • นอกจากนี้เราสามารถเสริมการรักษาสิวด้วยการทำทรีทเม้นท์รักษาสิว การกดสิว การฉีดสิว การดีท็อกซ์ผิว การใช้เลเซอร์ การฉายแสงสีฟ้าเพื่อให้สิวหายเร็วขึ้น ลดผลข้างเคียงที่เกิดจากการเป็นสิว (อ่านเพิ่มเติมใน Acne clear max)
  • ระยะเวลาที่ใช้ในการรักษาสิวจะใช้เวลา 4 อาทิตย์ถึง 6 เดือนขึ้นกับความรุนแรง
  • โดยแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่ระยะเริ่มแรกที่เป็นสิว เพื่อให้การรักษาสิวมีประสิทธิภาพสูงสุด ลดความรุนแรงได้อย่างรวดเร็วและป้องกันผลข้างเคียงจากการเป็นสิวที่เป็นแล้วเป็นเลยเช่นหลุมสิว ที่ถึงแม้ว่าทำการรักษาโดยนวัตกรรมหลายชนิด ผลลัพธ์ก็จะไม่ 100% ดังนั้นถ้าเป็นสิว ต้องรีบหาย อย่าปล่อยยืดเยื้อ

ไม่อยากเป็นสิว รู้จักสาเหตุและวิธีการรักษาสิวกันเถอะ Read More »